วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เจ็บแบบวิ่งไม่ออกเพราะ IT Band เจ้ากรรม

พึ่งจะรู้จัก IT Band ได้ไม่เกิน 2 เดือน ก่อนเขียนบทความนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยและไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันมีในโลก จริงแล้ว IT Band ไม่ใช่วงดนตรีแต่เป็นกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นอะไรซักอย่างนี้แหละอยู่บริเวณโคนขาด้านนอกชื่อเต็มๆไป googling มาให้แล้วนะมันชื่อ Iliotibial band (ย่อมาเป็น IT Band ยังไงล่ะจ๊ะ อยากได้ข้อมูลมากกว่านี้ถามแพทย์ออโธใกล้บ้านท่าน)

นี่แหละตัวแสบ IT Band

ทำไมถึงไปรู้จักมันล่ะ? ก็เพราะตอนเริ่มวิ่งใหม่ๆเจ็บตรงนี้มาก มากขนาดที่ว่าวันที่เจ็บ เจ็บจนวิ่ง 10 เมตรก็วิ่งไม่ได้ แต่เดินได้ปกติ ซึ่งมีอาการเจ็บเสียวตลอดเวลา เสียวทั้งวัน เสียวดังอีกต่างหาก อู้ววว อ้าาาว์ กันทั้งวัน ว่ากันว่านักกีฬาเป็นกันมาก แต่สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้นักกีฬาวิ่งเป็นคือ การวิ่งผิดฟอร์ม วิธีแก้ก็ง่ายๆเปลี่ยนฟอร์มวิ่ง หรือเปลี่ยนรองเท้าวิ่งให้เป็นแบบ minimalist ให้มากที่สุด(วิ่งตีนเปล่าได้ ให้วิ่งตีนเปล่าเลย) เพราะรองเท้าอาจจะบังคับให้เรากลับมาวิ่งให้ถูกฟอร์มได้(มีตัวอย่างจากคนใกล้ชิด 1 ราย)

ช่วงที่ตัวเองเจ็บม้วววววววววววก จะเจ็บขวาขาก่อน อาการก็เจ็บเสียวนั่นแหละ แต่ก็ทนๆเอาเพราะว่าคิดว่าขายังไม่แข็งแรง ซึ่งก็จริงส่วนหนึ่งเพราะหลังๆขาขวาไม่เจ็บแล้ว ย้ายมาเจ็บขาซ้ายแทน แต่รอบนี้เจ็บไม่มากละ วิ่งสบายๆอยู่กับความเจ็บปวดได้เหมือนเพื่อนที่รู้ใจ จริงๆเพราะเปลี่ยนฟอร์มวิ่งด้วยหลายอย่างเลยดีขึ้น

สุดท้ายนี้ ฝากคลิปยืดเหยืยด IT Band ให้หน่อยละกัน เพราะน้ำเยอะขอเนื้อๆตรงบรรทัดสุดท้ายนี่แหละ


 

วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

บันทึก 600km

เขียนไว้ครั้งแรกใน facebook ข้อความเหมือนกันเลย

สถิติส่วนตัวตั้งแต่เริ่มวิ่งมา 3 เดือนกว่าๆ ถึงกิโลที 600 วันนี้ เจ็บมาทุกส่วนตั้งแต่ใต้เอวลงไป 

- คำว่า "วิ่ง เป็นกีฬาง่ายๆและประหยัด แค่รองเท้าสองคู่ก็วิ่งได้แล้ว" เป็นเรื่องไม่จริง มันเป็นกีฬาที่ยากและเปลืองเหมือนกีฬาอื่นๆนั่นแหละ
- รองเท้าวิ่ง 1 คู่ อายุการใช้งาน 500km ถึงไม่เกิน 800km ถ้ารองเท้านั้นราคา 6,000 บาท(ตัวท้อป) อิมจะใส่วิ่งได้ประมาณ 4 เดือนเต็มที่ เฉลี่ยต่อปีเป็นค่ารองเท้า 18,000 บาท (ไม่นับค่าถุงเท้า กางเกง เสื้อ หมวก แว่นตา รัดแขน รัดน่อง นาฬิกา ตัววัดชีพจร กระติกน้ำ และอื่นๆที่นึกไม่ทัน)
- ความจริงคือ อิมไม่เคยซื้อรองเท้าคู่ละ 6,000 บาท เพราะมันแพงเกินและตั้งใจใช้ฟอร์มวิ่งเป็นแบบ forefoot หรือ midfoot strike ที่รองเท้าถูกกว่ากันเกือบ 3 เท่า
- อิม สุขภาพดีมากสมกับที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ
- อิมสามารถชวน ฝน Fon Worasaksakul มาวิ่งด้วยกันและฝนสามารถวิ่งได้ดีมากๆ ระยะ 10km ฝนวิ่งได้สบายอย่างน่าทึ่ง
- ฝน เป็นโปรอุปกรณ์ (facebook blogspot ช่วยทำตัวหนาตรง โปรอุปกรณ์ ด้วย)


วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

นักวิ่งมือใหม่ = นักบาดเจ็บมือใหม่

ตั้งแต่วิ่งมานี่เจ็บครบแทบจะทุกส่วนที่ต่ำกว่าเข็มขัดเข้าไปแล้ว แต่อันที่น่าหวาดเสียวที่สุด เป็นรูปธรรมที่สุดคงต้องยกให้อาการ "เล็บหลุด เล็บซ้อน" (ชื่อนี้เรียกเอง) ถ้ามันเกิดขึ้นซักเล็บเดียวก็คงไม่น่าสนใจแต่ตอนนี้ ตีนนี้ ล่อไป 4 เล็บแล้ว 

อาการของมันน่าจะเกิดมาจากการที่เล็บเท้าไปกระแทกกับ หัวของรองเท้าด้านใน ไม่ว่า insole จะนุ่มแค่ไหนมันก็ย่อมมีสภาพของการเป็นกำแพงอยู่นั่นเอง วิ่งกันน้อยๆก็คงไม่มีปัญหาอะไรแต่วิ่งยาวๆเป็น 10 กิโล ขึ้นย่อมจะหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บไม่ได้แน่ เพราะเล็บกระแทกกับหัวเกือกเป็นหลายๆร้อยครั้ง

หลังจากหลายๆร้อยครั้งนั้น ตัวเล็บจะเกิดห้อเลือดขึ้นใต้เล็บครับ เมื่อห้อเลือดมากๆตัวห้อเลือดจะดันเล็บเก่าให้อยู่ในสภาพเหมือนหลุดจากเท้าแล้วขั้นตอนนี้ แต่จริงๆเล็บไม่หลุดเพราะขอบเล็บยังติดอยู่กับเนื้อหนังอยู่ปกติ    แต่ว่า...... ถึงแม้ขอบเล็บไม่หลุดแต่ข้างใต้เล็บหลุดเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ร่างกายจะสร้างเล็บใหม่มาซ้อนในเล็บเก่า ซ้อนกันไปมาแบ่งชั้นกันอยู่กับห้อเลือดนั่นแหละ ช่วงนี้มีปวดบวมแล้วล่ะครับอยู่ไม่สุขกันแล้วเพราะปวดตุบๆๆตลอดเวลา สุดท้ายก็ต้องหาทางรักษากันไป จะไปหาหมอหาไรก็ว่ากันไป แต่ส่วนตัวทำเองนะครับเพราะเป็นบ่อยจัด อุปกรณ์ก็อุปกรณ์ปฐมพยาบาลธรรมดาครับ อาศัยใจถึง ตัด(เล็บ) ขุด(และขูดเนื้อ) บีบ(เลือด) ตัด ขุด บีบ ตัด ขุด บีบ ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เสร็จ

นำภาพเท้ามาให้ดูกันเป็นการศึกษาครับ ภาพไม่สุภาพเลยขออภัยด้วย
  1. คือเล็บเท้าที่โดนกระแทก แต่มันยังไม่เป็นอะไร
  2. คือเล็บเท้าที่เริ่มมีห้อเลือดเกิดขึ้นใต้เล็บแล้ว (มี step 2.5 ให้ดู)
  3. คือเล็บที่เป็นห้อเลือด ปวด บวม เจ็บ และก็ผ่านการขุดเพื่อเอาของเสียออกมารอบแล้วรอบเล่า ทุกครั้งกับจะตัดแต่งเล็บไปด้วยเพื่อความสะดวกในการ 'ขุด' นั่นเองทำให้เล็บสั้นลงเรื่อยๆ
  4. เล็บที่ถูกตัดจนสั้นกุด เป็นขั้นตอนที่ต่อจากขั้นตอนที่สาม จากแผลเปื่อยกลายเป็นแผลสด จากแผลสดกลายเป็นแผลเป็น และรอเวลาให้เล็บใหม่ดันงอกออกมา

ภาพเท้าถ่ายหลังการวิ่ง 15 กิโล ประมาณ 15 นาที เส้นเลือดเลยดูน่ากลัวกว่าความเป็นจริง

ผมลองค้นข้อมูลในชุมชนคนวิ่งพบว่าบางคนเกิดปัญหาเดียวกันกับผม และยังเป็นซ้ำๆอยู่บ้างทั้งๆที่มีประสบการณ์การวิ่งเยอะขึ้นมาก แต่บางคนตลอดชีวิตการวิ่งก็ไม่เคยเจ็บประเภทนี้เลย การรักษาโดยส่วนตัวผมก็ดูแลเหมือนแผลสดแผลเปื่อยทั่วไปครับ ขุดเล็บ ตัดเล็บ ล้างแผล และพันผ้าพันแผลในช่วงแผลยังสด ทำแผลเสร็จพันแผลเสร็จอีก 5 นาทีก็วิ่งได้เลยครับถ้าใจมันอยาก

เจ็บอาการนี้คะแนนหวาดเสียวเต็ม 10 ครับ แต่ถ้าดื้อจริงๆอยากวิ่งมากๆก็วิ่งได้สบายนะ ไม่เหมือนเจ็บข้างในแข้งในขา อันนั้น 5 เมตรก็จะพาลวิ่งไม่ออกเอาแล้วครับ